ประตูรีโมท

นวัตกรรมใหม่ที่ได้รับความนิยมและเกี่ยวข้องกับความสดวกสบายทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ หรือประตูบ้าน ที่นิยมใช้เป็น ประตูรีโมท

รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) ถือเป็นนวัตกรรมของโลกที่กำลังเป็นที่แพร่หลายอันใกล้ที่หลายคนจับตามอง เพราะนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น อีกทั้งการดูแลรักษาก็ง่ายกว่ารถยนต์ที่เราใช้กันในทุกวันนี้ อีกด้วย และไม่ใช่แค่รถยนต์เท่านั้น… นวัตกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเราทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือประตูรั้วที่นิยมใช้เป็น ประตูรีโมท ที่เปิด-ปิดเองอัตโนมัติ หรือสามารถสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลา

หากรถยนต์ไฟฟ้าคือรถยนต์แห่งอนาคต การเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ของคุณสำหรับรถ EV ก็เป็นสิ่งที่คุณควรจะต้องทราบข้อมูลเอาไว้ก่อนในขณะนี้ เช่น การเตรียมระบบไฟฟ้าในบ้านเพื่อติดตั้งแท่นชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า, การสำรวจที่จอดรถภายในบ้านให้มีพื้นที่สำหรับติดตั้งแท่นชาร์จ ฉะนั้นการเลือก ประตูรีโมท แบบเลื่อนเปิดปิดเองอัตโนมัติ เป็นอีกทางเลือกในการช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น นั่นเอง

แต่ก่อนอื่น AGO ขอพาคุณมาทำความรู้จักกับประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อรถยนต์คันใหม่ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ซึ่งประเภทของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

  • รถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) : เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในยุคแรกๆ ที่ยังไม่สามารถวิ่งในระบบ EV Mode ได้ไกลมากนัก โดยมีระยะทางวิ่ง ประมาณ 25-50 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง เป็นรถยนต์ที่มีระบบการทำงานแบบน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้าแบบเดียวกับรถ Hybrid แต่พิเศษกว่าตรงที่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟจากภายนอกได้
  • รถยนต์ไฟฟ้า Battery Electric Vehicle (BEV) : คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนโดยแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว นับว่าเป็นรถยนต์พลังสะอาดแบบ 100% สามารถเติมพลังงานการขับเคลื่อนผ่านการชาร์จไฟเข้ากับตัวรถ อีกทั้งยังถูกพัฒนาให้สามารถวิ่งได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งในปีนี้มีสถานีชาร์จไฟรถยนต์เพิ่มขึ้น เมื่อมีค่ายรถยนต์ยักใหญ่หลายยี่ห้อเข้ามาวางขายและเปิดศูนย์ในประเทศไทย พร้อมมาติดตั้งแท่นชาร์จถึงบ้านได้อย่างสดวก หากมีแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า การเพิ่มความสมาร์ท ด้วยการเปิดประตูรั้วเป็น ประตูรีโมท ก็ดูล้ำทันสมัย สดวกสบาย ยิ่งขึ้น หรือการเตรียมระบบไฟฟ้าในบ้านให้มากพอสำหรับการชาร์จรถยนต์ นั่นเอง
  • รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) : เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกประเภทหนึ่งที่ยังไม่ได้มีจำหน่ายในบ้านเรา แต่ในต่างประเทศก็พอมีจำหน่ายบ้างไม่มากนัก โดยมีความคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV แต่พลังงานในการขับเคลื่อนอาจจะไม่ได้มาพลังงานไฟฟ้าโดยตรง แต่จะใช้พลังงานทางเลือกอย่างก๊าซไฮโดรเจน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้รถยนต์

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า “ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการผลิตการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือ บอร์ด EV… ที่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ถึงปัจจุบัน (ณ 17 สิงหาคม 2565) มีโครงการที่ได้รับส่งเสริมในกิจการดังกล่าวแล้ว รวม 26 โครงการ จาก 17 บริษัท ได้แก่

  1. โครงการผลิต Hybrid Electric Vehicle (HEV) จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ GWM, Honda, Mazda, MG, Mitsubishi, Nissan, Toyota
  2. โครงการผลิต Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) จำนวน 8 โครงการ ได้แก่ BMW, BYD, GWM, Mercedes Benz, Mazda, MG, Mitsubishi, Toyota
  3. โครงการผลิต Battery Electric Vehicle (BEV) จำนวน 15 โครงการ ได้แก่ BYD, FOMM, GWM, Honda, Horizon, Mazda, Mercedes Benz, MG, Mine Mobility (2 โครงการ), Mitsubishi, Nissan Skywell, Takano, Toyota
  4. โครงการผลิตรถบัสไฟฟ้า (E-bus) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ Absolute Assembly และสกุลฎ์ซี” ที่มา : www.thaigov.go.th

จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ในประเทศไทยของเราอาจจะมีโอกาสเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ถูกลงกันได้มากขึ้น เพราะรัฐบาลเองก็มีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเราเริ่มมาทราบข้อมูลจำเป็นที่คุณควรทราบก่อนการมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้เป็นของตัวเอง ดังต่อไปนี้

ข้อมูลจำเป็นที่จะต้องทราบหากอยากใช้รถยนต์ไฟฟ้ากับ “ประตูรีโมท” อัตโนมัติ

  1. การเตรียมพื้นที่สำหรับจอดและติดตั้งแท่นชาร์จไฟภายในบ้าน : การใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้สะดวกสบายและคล่องตัวได้ ที่สำคัญมากที่สุดคือแท่นชาร์จไฟฟ้าที่คุณสามารถนำรถยนต์กลับมาชาร์จได้อย่างสะดวก แม้ตามสถานที่สาธารณะหลายแห่งจะมีให้คุณได้เลือกใช้บริการได้มากขึ้น แต่การมีแท่นชาร์จติดตั้งไว้ภายในบ้านก็สะดวกกว่า ดังนั้นการเตรียมพื้นที่จอดรถและแท่นชาร์จ รวมถึงการเตรียมระบบไฟฟ้าภายในบ้านไว้รองรับจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
    • การเปลี่ยนประตูบ้านให้เป็น “ประตูรีโมท แบบเลื่อนหากมีพื้นที่หน้าบ้านจำกัด เพราะข้อดีของประตูแบบเลื่อนก็คือ ช่วยประหยัดพื้นที่หน้าบ้านได้มากกว่าแบบบานสวิง โดยเฉพาะบางบ้านที่มีพื้นที่หน้าบ้านสำหรับการจอดรถยนต์ได้น้อย แล้วถ้าต้องติดตั้งแท่นชาร์จรถยนต์เพิ่มด้วยแล้ว การเตรียมความพร้อมเรื่องประตูบ้านก็สำคัญอย่างยิ่ง
    • เตรียมพื้นที่สำหรับการติดตั้งแท่นชาร์จ โดยตัวเครื่องชาร์จจนถึงจุดที่เสียบชาร์จกับตัวรถ ไม่ควรวางห่างกันเกิน 5 เมตร เนื่องจากสายเครื่องชาร์จ EV Charger โดยทั่วไปอยู่ที่ 5-7 เมตร และเลือกทำเลในการติดตั้งใกล้ตู้เมนไฟฟ้าในบ้าน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟได้ ที่สำคัญคือเลือกจุดที่อยู่ด้านในใต้หลังคา เพื่อป้องกันฝนจะช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น
    • ทำเรื่องขอเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่ เพราะมิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้กับบ้านโดยทั่วไปจะเป็น ไฟ 1-Phase 15(45) ซึ่งการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นที่แบบ 1-Phase 300(100) ซึ่งคุณสามารถไปยื่นขอมิเตอร์ไฟฟ้าได้ใหม่จากการไฟฟ้าได้ โดยเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้านที่จะขอติดตั้ง, เอกสารหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ครอบครองสถานที่ใช้ไฟฟ้า, บิลค่าไฟ อาจเตรียมไว้ 3-4 เดือนย้อนหลัง, ข้อมูลของรถยนต์ไฟฟ้าที่เราได้จองซื้อไว้, ใบมอบอำนาจและสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบในกรณีที่เจ้าของบ้านไม่ได้ดำเนินเรื่องด้วยตนเอง
    • ตรวจสอบภายในตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) ว่ามีช่องว่างสำรองเหลือให้ติดตั้ง Circuit Breaker อีก 1 ช่องหรือไม่? เพราะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องแยกใช้งานกับเครื่องไฟฟ้าอื่นๆ หรือถ้าหากภายในตู้หลักไม่มีช่องว่าง จะต้องเพิ่มตู้ควบคุมย่อยอีก 1 จุด นั่นเอง
    • เตรียมเต้ารับ (EV Socket) โดยการเสียบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นชนิด 3 รู (มีสายต่อหลักดิน) ต้องทนกระแสไฟฟ้าได้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 16(A)
  2. ศึกษารายละเอียดของระบบ Onboard Charger ของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่คุณเลือก : ความเร็วในการชาร์จไฟรถยนต์นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับไฟ (On Board Charger) ของรถยนต์แต่ละรุ่น โดยทั่วไปจะขนาดมีตั้งแต่ 3.6kW – 22kW ซึ่งทำให้ตัวเครื่องชาร์จออกแบบมาให้มีทั้งหมด 4 ขนาด คือ 3.7 kW, 7.4 kW, 11 kW และ 22 kW แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในบ้านเราจะมีด้วยกัน 3 แบบหลัก ๆ คือ
    • รุ่นที่ Onboard Charger รองรับกำลังไฟ 6kW เช่น MG ZS EV, Ora Good Cat
    • รุ่นที่ Onboard Charger รองรับกำลังไฟ 11kW เช่น Volvo XC40, C40, BMW iX3 และ Tesla 3, Y
    • รุ่นที่ Onboard Charger รองรับกำลังไฟ 22kW ตอนนี้จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียวที่รองรับคือ Porsche Taycan
  3. ศึกษาข้อมูลของแหล่งชาร์จไฟสาธารณะและสถานที่ส่งซ่อมบำรุง : แม้ว่าคุณจะเตรียมแท่นชาร์จไว้ในบ้านแล้ว แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลแหล่งที่ชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะอื่นๆ ไว้ในยามฉุกเฉินด้วย ยิ่งเวลาที่คุณต้องเดินทางไกลไปทำงานหรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัด การศึกษาข้อมูลแหล่งที่ชาร์จต่างๆ บนเส้นทางที่คุณต้องใช้เดินทางไว้ก่อนย่อมเป็นเรื่องดี ซึ่งในปัจจุบันนี้คุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น MEA EV ที่เป็นแอพฯ ของการไฟฟ้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานีชาร์จไฟเก็บไว้เช็คสถานที่เติมพลังงานระหว่างทางได้

ส่วนสถานที่ในการส่งซ่อมบำรุงรถยนต์ EV ทั้งอะไหล่ต่างๆ เมื่อรถเกิดมีปัญหา หรือการเปลี่ยนยางรถยนต์ ฯลฯ แม้ในปัจจุบันจะมีไม่มากและอาจจะหาข้อมูลยากสักนิด แต่ในอีกไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า เราเชื่อว่าจะมีค่อนข้างมากทีเดียว แต่ในขณะนี้คุณอาจจะสอบถามข้อมูลจากศูนย์ที่คุณซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็น่าจะพอให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้ นั่นเอง

เมื่อคุณทราบข้อมูลจำเป็น เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่นวัตกรรมแห่งยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มมองหา “ประตูรีโมท” อัตโนมัติมาใช้ไว้ก่อนได้เลย
เพราะที่ AGO เราติดตั้งประตูรั้วให้เป็นประตูเลื่อนไฟฟ้าคุณภาพทั้งแบบควบคุมสั่งการด้วยรีโมทและบนสมาร์ทโฟน ให้คุณเลือกได้เลือกใช้ตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีการรับประกันสินค้าคุณภาพของมอเตอร์ยาวนาน พร้อมการบริการให้ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการตรวจเช็คและบำรุงรักษารายปีให้ลูกค้าอีกด้วย

หากต้องการเลือกซื้อประตูรีโมทคุณภาพ หรือศึกษาข้อมูลสินค้าเพิ่มตามสามารถติดต่อได้ผ่านช่องทาง

AGO เราเป็นแบรนด์ด้านประตูรีโมท ครบวงจร
https://agothailand.com

ฝ่ายขาย : 098-286-9228

แจ้งซ่อม/ขายส่ง : 086-053-8987

เพิ่มเพื่อน Line ID : @ago8, @ago9 (พิมพ์ @ ด้านหน้าด้วยนะคะ)